ทางเข้าหินนาคา (น้ำตกกินรี)
ทางเข้าหินนาคา (น้ำตกกินรี)
ทางเข้าหินนาคา (น้ำตกกินรี)
5
Travellers' Choice là gì?
Tripadvisor trao giải thưởng Travellers' Choice cho các nhà nghỉ, điểm du lịch và nhà hàng liên tục nhận được đánh giá tuyệt vời từ khách du lịch và được xếp hạng trong top 10% cơ sở kinh doanh trên Tripadvisor.
Đề xuất chỉnh sửa để cải thiện nội dung chúng tôi hiển thị.
Cải thiện hồ sơ nàyBạn hiện có đang trong chuyến đi không?
Giúp chúng tôi tìm các trải nghiệm dành cho quý vị.
Khu vực
Tốt nhất lân cận
Chúng tôi xếp hạng những nhà hàng và điểm du lịch này bằng cách cân bằng đánh giá từ các thành viên của chúng tôi với khoảng cách giữa họ và địa điểm này.
Điểm du lịch
3 trong vòng 10 km
Đóng góp
5.0
1 đánh giá
Xuất sắc
1
Rất tốt
0
Trung bình
0
Tồi
0
Tồi tệ
0
tigerxmen
Thái Lan56.019 đóng góp
thg 1 năm 2022
สถานที่เที่ยวแห่งนี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่ง บึงโขงหลง จ. บึงกาฬ เพิ่งได้รับการค้นพบใหม่โดยทีมนักสำรวจ ถ้ำนาคา สถานที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ วัดป่ากินรี ท่านสามารถนำรถมาจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถเขตอภัยทานห้ามล่าสัตว์ด้านข้างสระน้ำขนาดใหญ่ได้ ในการเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้ ต้องเดินเท้าขึ้นเขาเพียงอย่างเดียว ใช้ระยะเวลาในการเดิน ขึ้นและลง ประมาณ 3ชั่วโมง โดยประมาณ ในบางจุดมีความลาดชันพอสมควร และ ก็มี การทำทางเดินเป็นบันไดเหล็ก ช่วยให้ไปยังจุดต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
ในการเดินทางเข้าไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของอาณาจักรนาคินทร์แห่งนี้ ไม่แนะนำให้เดินไปสำรวจด้วยตนเอง แนะนำให้ใช้บริการเจ้าหน้าที่หรือไกด์ท้องถิ่น ซึ่งจะมีให้บริการอยู่บริเวณด้านหน้าทางเดิน โดยในการมาเที่ยวชมครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้ไกด์ท้องถิ่นผู้เป็นหนึ่งในทีมผู้บุกเบิกและค้นพบสถานที่แห่งนี้นำพามา คือ คุณ สมคิด ร่วมกับไกด์ท้องถิ่นประจำพื้นที่อีกท่าน นำพามา ท่านสามารถติดต่อคุณสมคิดได้ที่ คุณณปาล รีสอร์ท บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้ เค้าเป็นเจ้าของรีสอร์ทนี้และ ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางร่วมด้วย
สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ขึ้นไปเที่ยวชมด้วยตนเอง เนื่องด้วยสถานที่เที่ยวแห่งนี้ ยังบริสุทธิ์อยู่เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเคยมาเที่ยวชมกันมากนัก และบริเวณพื้นที่โดยรอบจะเป็นผืนป่า เนื่องด้วย สถานที่เที่ยวนี้ ตั้งอยู่ในเขต พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกา ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอบ้านแพ จังหวัดนครพนม และ อำเภอบึงโขลง จังหวัดบึงกาฬ เป็นแหล่งรวมธรรมชาติสุด Unseen ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดมากถึง 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่าหลายชนิด มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และยังมีความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม มีอาณาเขตทิศเหนือจดห้วยทรายและห้วยซ่าน ท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิหมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ทิศใต้จดทางเกวียน ที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลหนองซน อำเภอบ้านแพง นาทม จังหวัดนครพนม ทิศตะวันออก จดที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลนางัว ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ทิศตะวันตก จดที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลโพธิหมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ดังนั้น ท่านอาจจะพลัดหลงได้
สถานที่เที่ยวแห่งนี้ มีความเร้นลับและน่าค้นหา ท่านจะได้เห็นก้อนหินรูปทรงคล้ายไข่พญานาคาและ มีหินขนาดใหญ่ที่มีลักษระเหมือน งู หรือพญานาคา ขนาดใหญ่ อยู่หลายจุด ประกอบกับความเชื่อของคนท้องถิ่นว่า บอกต่อกันมาว่าที่นี่เป็นประตูไปสู่ดินแดนลับแลหรือเมืองบังบด
เมืองบังบด เป็นภาษาอิสาน มีความหมาย คล้ายกันกับคำว่า เมืองลับแล "บัง" แปลว่า ซ่อน ปิดบัง "บด" แปลว่า ร่ม (ร่ม คือ มีเมฆมาบังจะเรียกว่า บดแดด ) ความหมาย ของ เมืองบังบดคือ เมืองที่ซ่อนเร้น เมืองที่แอบอยู่ หรือ ถ้าจะพูดให้เป็นแบบ สากล คือ แดนสนธยา (the Twilight Zone) คือ ดินแดน ที่คนที่อยู่ข้างในจะให้คนนอกเห็นหรือจะไม่ให้เห็นก็ได้ แต่คนข้างนอกอยากจะเห็นก็จะเห็นไม่ได้ นอกจากคนที่อยู่ข้างในเมืองบังบดอยากให้เห็นเอง ถึงจะได้เห็น หากพูดให้เป็นไปตามหลัก ดาราศาสตร์ ก็จะเรียกว่า ดินแดนที่อยู่คนคนละมิติ ซึ่งอาจจะทับซ้อนอยู่กับมิติ ที่เราอยู่ในปัจจุบัน
จุดเที่ยวชมที่งดงามและน่าทึ่ง มีอยู่มากมาย เริ่มตั้งแต่ ทางเดินขึ้นเขา จะมีศาลพ่อปู่ดำ ให้ท่าน กราบสักการะ ขอขมาและช่วยให้ท่านคุ้มครอง ก่อนเป็นสิ่งแรก หลังจากนั้น จุดต่อมาก็จะเป็น ประตูสู่ทางเข้าเมืองบังบด ตามความเชื่อ โดยด้านหน้าทางเข้าจะมีเจ้าปู่องค์ดำ ให้กราบสักการะ
เดินต่อไปก็จะเจอกับก้อนหินขนาดใหญ่ปานกลาง มีลักษณะคล้ายงู กำลังขดตัว มีเกล็ด ครบถ้วน ช่างน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง, หลังจากนั้น ทางเดินจะลาดชันขึ้น ต้องเดินเกาะเชือก ที่เค้าผูกยึดกับต้นไม้ไว้ ช่วยประคองในการเดินเพื่อความปลอดภัย ระหว่างทาง ก็จะได้เห็นกับหินที่มีลักษณะคล้ายกับหัวงูขนาดใหญ่ ระหว่างทางเดินท่านจะได้เห็นเห็ดป่าขนาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ ที่ไม่เคยได้พบเห็นทั่วไป แนะนำให้ชมอย่างเดียวอย่าสัมผัสหรือแตะต้อง,ทำลาย ก้อนหินหรือพืชพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้ความเป็นธรรมชาติ ยังคงอยู่สืบต่อไป ตามวัฏจักร
เดินต่อมาจะเจอกับจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นคือ ก้อนหินรูปปลาโลมา ที่ตั้งเรียงรายโอบล้อมลำธารน้ำที่ไหลลงมาจาก น้ำตกกินรี เป็นปฏิมากรรมทางธรรมชาติ ที่น่าทึ่ง ซึ่งจัดวางไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงฤดูฝน จะมี มอส,ไลเค็น ปกคลุมที่ก้อนหินปลาโลมาเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มความตระการให้เป็นอย่างยิ่ง
เดินสำรวจต่อมาจะถึงจุดที่ก้อนหินมีรูปร่างทรงกลมคล้ายกับ บาตรพระขนาดใหญ่ มีลวดลายขรุขระ คล้ายกับถูกสลักเสลาด้วยฝีมือมนุษย์ แต่แท้จริงแล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หลังจากนั้นเดินต่อไป ก็จะเจอกับก้อนหินที่มีลายคล้ายเกล็ดงู อยู่ ระหว่างทางให้ชม
และอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ ที่ต้องแวะชมความก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายกับ "ไข่พญานาคินทร์ " ที่ได้รับการโอบอุ้มจากรากไม้เป็นสิ่งที่น่าแปลกเหนือคาดหมาย รูปทรงกลมรีเหมือนไข่ไก่ หรือไข่งู แต่มีขนาดมหึมา และมีเกล็ดลวดลายทั้งหมด ซึ่งไม่มีทางที่ มนุษย์จะทำขึ้นได้
เดินต่อไปเพื่อไปยัง จุดที่เค้าเรียกว่า พญางูแดง มีหินขนาดใหญ่ คล้ายงูกำลังขดตัวและมี ความกว้างและอลังกาสุดๆ และจุดสุดท้ายที่ข้าพเจ้าเดินสำรวจไป จะเป็นก้อนหินมีลักษณะคล้ายงูกำลังขดตัว แต่เป็นสีดำ ยิ่งเดินชมก้อนหินต่างๆ แล้วก็ยิ่งทึ่ง ด้วยเวลาที่จำกัด ข้าพเจ้าไม่ได้ไปถึงจุดสุดท้าย ที่ต้องใช้เวลาเดินขึ้นไปอีกอย่างน้อย 60นาที เพื่อไปยัง ก้อนหินงูที่มีลักษณะเป็น สีทอง
ก้อนหินต่างๆที่วังนาคินทร์นี้มีลักษณะเป็นเพิงหินขนาดใหญ่ มีพื้นผิวแตกลายซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ศัพท์ทางวิชาการเค้าเรียกว่าซันแครก (sun crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดของพญานาคขนาดใหญ่กำลังนอนขดตัว โดยมีมอสสีเขียวที่ขึ้นตามโขดหิน ทำให้ลวดลายต่างๆเด่นชัดครับ
ตามหลักวิทยาศาตร์ คาดการณ์กันว่า ก้อนหินเหล่านี้ ที่มีลวดลายคล้ายพญานาคา หรืองู ใหญ่ ล้วนเกิดจากเป็นหินทรายสีน้ำตาลแดง ซึ่งเป็นหินที่เกิดจากการพัดพาสะสมตัวของเม็ดดินเม็ดทรายที่เกิดจากกระแสลมในทะเลทรายในทางธรณีวิทยาเราจะเรียกว่า หมวดหินภูทอก เป็นหินที่เกิดในยุคครีเทเซียสตอนปลาย คือประมาณ 70 ล้านปีที่แล้วมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาท้ายๆ ของยุคที่มีไดโนเสาร์ โดยไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ไปในราวๆ 65 ล้านปีที่แล้วมา หินชนิดนี้จะเกิดจากตะกอนที่เป็นเนินทราย หรือเนินดูนในทะเลทรายลักษณะเด่นคือ จะมีชั้นหินเฉียงระดับ ที่สามารถบอกทิศทางของลมที่พัดในทะเลทรายในสมัยโบราณนั้นก่อนที่จะกลายเป็นหินแข็งในภายหลัง...หินทรายบริเวณนี้ความหนาค่อนข้างมาก เนื้อหินมีความเป็นเนื้อเดียวกันและมีความพรุนสูงด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงจนทำให้เกิดลายบนหินดูแล้วจะคล้ายเกล็ดพญานาคตามจินตนาการ
หรือในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อนต่อมาเกิดวัฏจักรการกัดเซาะในช่วงน้ำมากน้ำน้อยในยุคโลกร้อนและยุคน้ำแข็งที่มีระดับความแตกต่างกันอยู่ก้อนหินทรายสีน้ำตาลแดงเหล่านี้ได้ถูกการกัดเซาะจากน้ำ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง จนดูแล้วคล้ายกับ งู,พญานาคา หรือสัตว์ในจินตนาการต่างๆซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ยาวนานมาก คาดว่าจะใช้เวลานับแสนปี หรือนานกว่านั้น ช่างเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่าทึ่ง กับสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบเป็นมรดกไว้ให้กับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ถ้าส่องดูเนื้อหินผ่านกล้องส่องพระด้วยแล้ว เราจะเห็นเนื้อหินที่ประกอบไปด้วยเม็ดแร่ควอตซ์ แร่ชนิดเดียวกับหินเขี้ยวหนุมาน ส่วนมากเป็นผลึกใสนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีที่โดดเด่นมากครับ
ในการเดินทางเข้าไปเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของอาณาจักรนาคินทร์แห่งนี้ ไม่แนะนำให้เดินไปสำรวจด้วยตนเอง แนะนำให้ใช้บริการเจ้าหน้าที่หรือไกด์ท้องถิ่น ซึ่งจะมีให้บริการอยู่บริเวณด้านหน้าทางเดิน โดยในการมาเที่ยวชมครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้ไกด์ท้องถิ่นผู้เป็นหนึ่งในทีมผู้บุกเบิกและค้นพบสถานที่แห่งนี้นำพามา คือ คุณ สมคิด ร่วมกับไกด์ท้องถิ่นประจำพื้นที่อีกท่าน นำพามา ท่านสามารถติดต่อคุณสมคิดได้ที่ คุณณปาล รีสอร์ท บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้ เค้าเป็นเจ้าของรีสอร์ทนี้และ ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางร่วมด้วย
สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ขึ้นไปเที่ยวชมด้วยตนเอง เนื่องด้วยสถานที่เที่ยวแห่งนี้ ยังบริสุทธิ์อยู่เป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเคยมาเที่ยวชมกันมากนัก และบริเวณพื้นที่โดยรอบจะเป็นผืนป่า เนื่องด้วย สถานที่เที่ยวนี้ ตั้งอยู่ในเขต พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกา ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ อำเภอบ้านแพ จังหวัดนครพนม และ อำเภอบึงโขลง จังหวัดบึงกาฬ เป็นแหล่งรวมธรรมชาติสุด Unseen ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดมากถึง 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่าหลายชนิด มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และยังมีความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม มีอาณาเขตทิศเหนือจดห้วยทรายและห้วยซ่าน ท้องที่ตำบลดงบัง ตำบลโพธิหมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ทิศใต้จดทางเกวียน ที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลโพนทอง ตำบลหนองซน อำเภอบ้านแพง นาทม จังหวัดนครพนม ทิศตะวันออก จดที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลนางัว ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ทิศตะวันตก จดที่ทำกินราษฎร ท้องที่ตำบลโพธิหมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดหนองคาย ดังนั้น ท่านอาจจะพลัดหลงได้
สถานที่เที่ยวแห่งนี้ มีความเร้นลับและน่าค้นหา ท่านจะได้เห็นก้อนหินรูปทรงคล้ายไข่พญานาคาและ มีหินขนาดใหญ่ที่มีลักษระเหมือน งู หรือพญานาคา ขนาดใหญ่ อยู่หลายจุด ประกอบกับความเชื่อของคนท้องถิ่นว่า บอกต่อกันมาว่าที่นี่เป็นประตูไปสู่ดินแดนลับแลหรือเมืองบังบด
เมืองบังบด เป็นภาษาอิสาน มีความหมาย คล้ายกันกับคำว่า เมืองลับแล "บัง" แปลว่า ซ่อน ปิดบัง "บด" แปลว่า ร่ม (ร่ม คือ มีเมฆมาบังจะเรียกว่า บดแดด ) ความหมาย ของ เมืองบังบดคือ เมืองที่ซ่อนเร้น เมืองที่แอบอยู่ หรือ ถ้าจะพูดให้เป็นแบบ สากล คือ แดนสนธยา (the Twilight Zone) คือ ดินแดน ที่คนที่อยู่ข้างในจะให้คนนอกเห็นหรือจะไม่ให้เห็นก็ได้ แต่คนข้างนอกอยากจะเห็นก็จะเห็นไม่ได้ นอกจากคนที่อยู่ข้างในเมืองบังบดอยากให้เห็นเอง ถึงจะได้เห็น หากพูดให้เป็นไปตามหลัก ดาราศาสตร์ ก็จะเรียกว่า ดินแดนที่อยู่คนคนละมิติ ซึ่งอาจจะทับซ้อนอยู่กับมิติ ที่เราอยู่ในปัจจุบัน
จุดเที่ยวชมที่งดงามและน่าทึ่ง มีอยู่มากมาย เริ่มตั้งแต่ ทางเดินขึ้นเขา จะมีศาลพ่อปู่ดำ ให้ท่าน กราบสักการะ ขอขมาและช่วยให้ท่านคุ้มครอง ก่อนเป็นสิ่งแรก หลังจากนั้น จุดต่อมาก็จะเป็น ประตูสู่ทางเข้าเมืองบังบด ตามความเชื่อ โดยด้านหน้าทางเข้าจะมีเจ้าปู่องค์ดำ ให้กราบสักการะ
เดินต่อไปก็จะเจอกับก้อนหินขนาดใหญ่ปานกลาง มีลักษณะคล้ายงู กำลังขดตัว มีเกล็ด ครบถ้วน ช่างน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง, หลังจากนั้น ทางเดินจะลาดชันขึ้น ต้องเดินเกาะเชือก ที่เค้าผูกยึดกับต้นไม้ไว้ ช่วยประคองในการเดินเพื่อความปลอดภัย ระหว่างทาง ก็จะได้เห็นกับหินที่มีลักษณะคล้ายกับหัวงูขนาดใหญ่ ระหว่างทางเดินท่านจะได้เห็นเห็ดป่าขนาดใหญ่หลากหลายสายพันธุ์ ที่ไม่เคยได้พบเห็นทั่วไป แนะนำให้ชมอย่างเดียวอย่าสัมผัสหรือแตะต้อง,ทำลาย ก้อนหินหรือพืชพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้ความเป็นธรรมชาติ ยังคงอยู่สืบต่อไป ตามวัฏจักร
เดินต่อมาจะเจอกับจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นคือ ก้อนหินรูปปลาโลมา ที่ตั้งเรียงรายโอบล้อมลำธารน้ำที่ไหลลงมาจาก น้ำตกกินรี เป็นปฏิมากรรมทางธรรมชาติ ที่น่าทึ่ง ซึ่งจัดวางไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะถ้าเป็นช่วงฤดูฝน จะมี มอส,ไลเค็น ปกคลุมที่ก้อนหินปลาโลมาเหล่านี้ ยิ่งเพิ่มความตระการให้เป็นอย่างยิ่ง
เดินสำรวจต่อมาจะถึงจุดที่ก้อนหินมีรูปร่างทรงกลมคล้ายกับ บาตรพระขนาดใหญ่ มีลวดลายขรุขระ คล้ายกับถูกสลักเสลาด้วยฝีมือมนุษย์ แต่แท้จริงแล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หลังจากนั้นเดินต่อไป ก็จะเจอกับก้อนหินที่มีลายคล้ายเกล็ดงู อยู่ ระหว่างทางให้ชม
และอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ ที่ต้องแวะชมความก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายกับ "ไข่พญานาคินทร์ " ที่ได้รับการโอบอุ้มจากรากไม้เป็นสิ่งที่น่าแปลกเหนือคาดหมาย รูปทรงกลมรีเหมือนไข่ไก่ หรือไข่งู แต่มีขนาดมหึมา และมีเกล็ดลวดลายทั้งหมด ซึ่งไม่มีทางที่ มนุษย์จะทำขึ้นได้
เดินต่อไปเพื่อไปยัง จุดที่เค้าเรียกว่า พญางูแดง มีหินขนาดใหญ่ คล้ายงูกำลังขดตัวและมี ความกว้างและอลังกาสุดๆ และจุดสุดท้ายที่ข้าพเจ้าเดินสำรวจไป จะเป็นก้อนหินมีลักษณะคล้ายงูกำลังขดตัว แต่เป็นสีดำ ยิ่งเดินชมก้อนหินต่างๆ แล้วก็ยิ่งทึ่ง ด้วยเวลาที่จำกัด ข้าพเจ้าไม่ได้ไปถึงจุดสุดท้าย ที่ต้องใช้เวลาเดินขึ้นไปอีกอย่างน้อย 60นาที เพื่อไปยัง ก้อนหินงูที่มีลักษณะเป็น สีทอง
ก้อนหินต่างๆที่วังนาคินทร์นี้มีลักษณะเป็นเพิงหินขนาดใหญ่ มีพื้นผิวแตกลายซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ศัพท์ทางวิชาการเค้าเรียกว่าซันแครก (sun crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดของพญานาคขนาดใหญ่กำลังนอนขดตัว โดยมีมอสสีเขียวที่ขึ้นตามโขดหิน ทำให้ลวดลายต่างๆเด่นชัดครับ
ตามหลักวิทยาศาตร์ คาดการณ์กันว่า ก้อนหินเหล่านี้ ที่มีลวดลายคล้ายพญานาคา หรืองู ใหญ่ ล้วนเกิดจากเป็นหินทรายสีน้ำตาลแดง ซึ่งเป็นหินที่เกิดจากการพัดพาสะสมตัวของเม็ดดินเม็ดทรายที่เกิดจากกระแสลมในทะเลทรายในทางธรณีวิทยาเราจะเรียกว่า หมวดหินภูทอก เป็นหินที่เกิดในยุคครีเทเซียสตอนปลาย คือประมาณ 70 ล้านปีที่แล้วมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาท้ายๆ ของยุคที่มีไดโนเสาร์ โดยไดโนเสาร์จะสูญพันธุ์ไปในราวๆ 65 ล้านปีที่แล้วมา หินชนิดนี้จะเกิดจากตะกอนที่เป็นเนินทราย หรือเนินดูนในทะเลทรายลักษณะเด่นคือ จะมีชั้นหินเฉียงระดับ ที่สามารถบอกทิศทางของลมที่พัดในทะเลทรายในสมัยโบราณนั้นก่อนที่จะกลายเป็นหินแข็งในภายหลัง...หินทรายบริเวณนี้ความหนาค่อนข้างมาก เนื้อหินมีความเป็นเนื้อเดียวกันและมีความพรุนสูงด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงจนทำให้เกิดลายบนหินดูแล้วจะคล้ายเกล็ดพญานาคตามจินตนาการ
หรือในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อนต่อมาเกิดวัฏจักรการกัดเซาะในช่วงน้ำมากน้ำน้อยในยุคโลกร้อนและยุคน้ำแข็งที่มีระดับความแตกต่างกันอยู่ก้อนหินทรายสีน้ำตาลแดงเหล่านี้ได้ถูกการกัดเซาะจากน้ำ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง จนดูแล้วคล้ายกับ งู,พญานาคา หรือสัตว์ในจินตนาการต่างๆซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่ยาวนานมาก คาดว่าจะใช้เวลานับแสนปี หรือนานกว่านั้น ช่างเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่าทึ่ง กับสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบเป็นมรดกไว้ให้กับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ถ้าส่องดูเนื้อหินผ่านกล้องส่องพระด้วยแล้ว เราจะเห็นเนื้อหินที่ประกอบไปด้วยเม็ดแร่ควอตซ์ แร่ชนิดเดียวกับหินเขี้ยวหนุมาน ส่วนมากเป็นผลึกใสนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีที่โดดเด่นมากครับ
Đã viết vào 10 tháng 1, 2022
Đánh giá này là ý kiến chủ quan của thành viên Tripadvisor chứ không phải của Tripadvisor LLC. Tripadvisor thực hiện kiểm tra đánh giá.
Không có câu hỏi nào được đặt cho trải nghiệm này
*Có khả năng bán hết: Dựa vào thông tin và dữ liệu đặt chỗ của Viator từ nhà cung cấp trong 30 ngày qua, có vẻ như trải nghiệm này sẽ bán hết thông qua Viator, một công ty của Tripadvisor.
Đây có phải là hồ sơ Tripadvisor của bạn không?
Bạn sở hữu hoặc quản lý cơ sở kinh doanh này? Xác nhận hồ sơ của bạn miễn phí để trả lời đánh giá, cập nhật hồ sơ và hơn thế nữa.
Xác nhận hồ sơ của bạn